🚗💨 รถทุกคัน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ เมื่อถึงกำหนดครบปี ต้องมีการเสียภาษีประจำปี ทั้งนี้ หากเป็นรถใหม่ยังไม่จำเป็นต้องมีการตรวจสภาพรถ แต่สำหรับรถเก่าที่มีอายุการใช้งานผ่านมาระยะหนึ่งแล้วต้องทำการตรวจสภาพรถทุกครั้งก่อนที่จะดำเนินการเสียภาษีประจำปี
🚨 โดยเหตุผลที่ต้องนำรถที่มีอายุเกินกำหนดเข้ารับการตรวจสภาพก็เนื่องจากว่ารถที่จะนำมาใช้งานบนท้องถนนนั้นจะต้องมีสภาพมั่นคง แข็งแรง มีลักษณะ ขนาด และเครื่องอุปกรณ์ส่วนควบของรถถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับรถ ผู้โดยสารที่ไปกับรถคันนั้น ผู้ขับขี่รถคันอื่น ๆ คนเดินถนน รวมทั้งสภาพแวดล้อมต่าง ๆ
🏍 สำหรับการนับอายุการใช้งานของรถ ให้นับอายุทางทะเบียนโดยนับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก ถึงวันสิ้นสุดอายุภาษีประจำปี (วันครบกำหนดเสียภาษีประจำปี) โดยรถที่เข้าข่ายต้องตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีประจำปีสามารถแบ่งตามประเภทรถได้ดังนี้
🎈 รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป
🎈 รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป
🎈 รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป
🎈 รถจักรยานยนต์ ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปีขึ้นไป
🏎 ทั้งนี้ คุณสามารถตรวจสภาพรถล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน ก่อนถึงวันสิ้นอายุภาษีประจำปี โดยนำรถไปตรวจสภาพได้ที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก หรือหน่วยงานของกรมการขนส่งทางบก แต่ก็มีข้อยกเว้นในบางกรณีที่ต้องนำรถไปตรวจเฉพาะกับหน่วยงานของกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น คือ
🔸 รถที่ดัดแปลงสภาพผิดไปจากที่ได้จดทะเบียนไว้
🔸 รถที่เปลี่ยนสีหรือเปลี่ยนแปลงตัวรถหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้ในสมุดคู่มือทะเบียนรถ (เช่น เปลี่ยนเครื่องยนต์ เปลี่ยนลักษณะรถ เปลี่ยนชนิดน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น)
🔸 รถที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลขตัวรถหรือเลขเครื่องยนต์ (เช่น ไม่ปรากฏตัวเลข ตัวเลขชำรุด หรือมีร่องรอยการแก้ไข ขูด ลบ หรือลบเลือน จนไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ เป็นต้น)
🔸 รถที่เจ้าของได้แจ้งการไม่ใช้ชั่วคราว หรือแจ้งการไม่ใช้รถตลอดไปไว้
🔸 รถเก่าที่มีเลขทะเบียนเป็นเลขทะเบียนรุ่นเก่า ( เช่น กท-00001, กทจ-0001 เป็นต้น) ซึ่งรถดังกล่าวต้องเปลี่ยนทะเบียนรถใหม่เมื่อมีการนำมาเสียภาษีประจำปี
🔸 รถที่มีปัญหาเกี่ยวกับการถูกโจรกรรมแล้วได้คืน
🔸 รถที่ได้สิ้นอายุภาษีประจำปี (ขาดต่อทะเบียน) เกิน 1 ปี
💵 ส่วนอัตราค่าตรวจสภาพรถ แบ่งออกได้ดังนี้
🔖 รถจักรยานยนต์ คันละ 60 บาท
🔖 รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 150 บาท
🔖 รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 250 บาท
🌟 สุดท้ายนี้ เมื่อไปติดต่อกับสถานตรวจสภาพรถ ให้เจ้าของรถนำรถและสมุดคู่มือทะเบียนรถไปแสดงด้วยทุกครั้ง หากตรวจสภาพรถผ่าน ตรอ. จะออกใบรับรองการตรวจสภาพรถตามแบบที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้กับคุณ แต่หากตรวจแล้วไม่ผ่านทาง ตรอ. ก็จะแจ้งข้อบกพร่องให้ทราบเพื่อให้คุณนำกลับไปแก้ไขแล้วนำกลับมาตรวจใหม่ ซึ่งหากแก้ไข และนำกลับมาตรวจใหม่ (ที่เดิม) ภายใน 15 วัน จะเสียค่าใช้จ่ายเพียงครึ่งหนึ่งของค่าบริการที่กำหนดไว้ แต่หากเกิน 15 วัน หรือไปตรวจที่สถานตรวจสภาพรถเอกชนแห่งอื่นจะเสียค่าบริการเต็มจำนวนตามปกติ
✅ เบี้ยถูก คุ้มครองดี บริการเยี่ยม ต้อง ศรีกรุงโบรคเกอร์ เท่านั้น
#ศรีกรุงโบรคเกอร์
ให้คำแนะนำแบบมืออาชีพฟรี
Tel : 0839256425
✅ Lind id : wachirason946 👉 line.me/ti/p/~wachirason946
#ขายประกันรถยนต์
#รถยนต์ #ประกันราคาถูก #ประกันเงินผ่อนได้นาน_6_เดือน #ผ่อนโดยไม่ต้องใช้บัตร
#ประกันกันถูกและดี
#เรื่องรถยนต์ยกให้เรานะครับ
#คุณเอกประกันภัย #เอกประกันภัย
#รับสมัครตัวแทนทั่วประเทศ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมแบบเจาะลึก